Thursday, December 11, 2008
[ฝรั่ง]-THE DEATHS OF IAN STONE พันธุ์อมตะ ฆ่าหมื่นตาย
ชื่ออื่นๆOlum bekcisiAvrio tha... xanapethaneisLe Morti di Ian StoneThe Deaths of Ian
ประเภท Horror / Thriller
เรตภาพยนตร์ R
วันที่เข้าฉาย 28 สิงหาคม 2551
ความยาว 87 นาทีกำกับโดย Dario Piana
เขียนโดย Brendan Hood
นำแสดงโดย Mike Vogel ... Ian Stone Jaime Murray ... Medea Christina Cole ... Jenny Walker Michael Feast ... Gray Charlie Anson ... Josh Garfield Michael Dixon ... Brad Kopple George Dillon ... Referee Andrew Buchan ... Ryan Anthony Warren ... Carl
สร้างโดยประเทศ UK / USA
จำหน่ายโดย มงคลเมเจอร์
เรื่องย่อ
เอียน สโตน ( ไมค์ โวเกล ) เป็นชายหนุ่มอเมริกันบ้าน ๆ เขารักฮ๊อคกี้น้ำแข็งเป็นชีวิต แต่รักเจนนี่ วอล์คเกอร์ ( คริสติน่า โคล) แฟนสาวเป็นจิตใจ กลางดึกคืนหนึ่งในขณะที่เขากำลังขับรถกลับบ้านจากลานฮ๊อคกี้น้ำแข็งที่ทีม ของเขาแพ้ยับเยิน ถึงจะเจ็บปวดรวดร้าวใจที่พ่ายในการแข่งขัน แต่เอียนก็ต้องสะพรึงกับภาพที่พบเห็นอยู่ตรงหน้า ร่างที่ไม่ไหวติงนอนนิ่งอยู่ข้าง ๆ รางรถไฟ เขาจอดรถลงไปดูให้แน่ใจ ในจังหวะที่เอียนกำลังฉงยสนเท่ห์อยู่นั้น ร่างที่เคยแน่นิ่งก็พลันขยับและจู่โจมทำร้ายเขาจนพลาดท่าเสียทีขึ้นไปขวาง รางรถไฟที่ขบวนรถกำลังมุ่งหน้าเข้ามาอย่างเร็ว....เอียนฟื้นคืนสติขึ้นมาในสำนักงานโดยไม่ปรากฎรอยบาดแผลใด ๆ ราวกับปาฏิหาริย์ แต่ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างรอบ ๆ ตัวของเขาเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย เจนนี่ก็ยังคงอยู่ใกล้ ๆ แต่เธอกลับไม่ได้เป็นแฟนสาวของเขาเสียแล้ว ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่เป็นมิตรต่อกัน เอียนกำลังควงมีดี้ (เจม เมอร์เร่ย์) สาวสวยเสน่ห์แรงแต่ดูลึกลับน่าขนลุก แต่เชื่อเถอะนะว่า เหตุสยองที่เกิดขึ้นริมทางรถไฟนั่นไม่ใช่เรื่องฝันไปอย่างแน่นอน อย่างน้อย ๆ ก็ไม่รู้สึกว่าฝันไปแน่ ๆ วิถีชีวิตของเอียนจะค่อย ๆ หวือหวาขึ้นทุกทีแล้วสินะ จะหันซ้ายแลขวาก็เจอแต่ผู้คนหน้าคุ้น ๆ แต่ไม่มั่นใจนักว่าพวกเขายังเป็นคนเดิมที่เคยคุ้นหรือไม่ ทั้งสายตาที่จับจ้องมองเอียน และเสียงกระซิบกระซาบลับหลังของคนแปลกหน้าที่อื้ออึงหนาหูฟังดูเลวร้ายขึ้น ทุกทีเอียนยังมึนไม่ทันตั้งสติเข้าที่ เกรย์ (โดยไมเคิ้ล ฟีสต์) ก็โผล่เข้ามาช่วยไขปริศนาคาใจว่า เอียนกำลังถูกเหล่าฮาร์เวสเตอร์ (Harvesters) สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายจากดินแดนใต้โลกที่มีพลัง ปรับเปลี่ยนโลกทัศน์ของมนุษยชาติให้รับรู้-เห็นภาพไปต่าง ๆ นานาได้ตามอำเภอใจ เกรย์ยังอธิบายให้เอียนเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า พวกฮาร์เวสเตอร์จะเก็บเกี่ยวความกลัวของมนุษย์เป็นอาหารเพิ่มพลังชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกลัวสุดขั้วของคนที่กำลังจะเสียชีวิต ปริศนาคาใจข้อเดียวของเอียนก็คือ ทำไมเขารอดชีวิตจากเหตุสยองมาได้เล่า เขาจะ “ฟื้นคืนชีพ” ขึ้นมาใหม่ได้ทุกครั้ง แต่เป็นการกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงรูปแบบเดิม ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เอียนจะตื่นขึ้นมาใช้วงจรชีวิตที่ทุกข์เพิ่มทวี ไม่มีความสุขหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับตกนรกจมลึกลงไปทุกทีไม่ว่าจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาครั้งใด เอียนก็จะพบเจนนี่กับมีดี้ทุกครั้งไป เมื่อมีดี้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงว่า เธอก็เป็นหนึ่งในพวกฮาร์เวสเตอร์ เอียนจึงบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเจนนี่เพื่อเตือนสติ ให้เขาตระหนักถึงวิถีความเป็นไปแห่งชีวิต เจนนี่เองก็หวาดกลัวไม่ใช่น้อย และคิดไปด้วยซ้ำว่าเอียนนี่คงเสียสติไปแล้ว บ้าแน่ ๆ เอียนเองก็คอยช่วยเตือนความทรงจำอันหวานชื่นของทั้งคู่เกรย์กลับเข้ามาชี้ทางสว่างอธิบายให้เอียนเข้าใจว่า เกรย์เองก็เป็นฮาร์เวสเตอร์หัวขบถ... เหมือนกับ เอียน นั่นแหละ แต่เมื่อเอียนตกหลุมรักเจนนี่ ซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนที่ชีวิตไม่เป็นอมตะ เอียนจึงเปลี่ยนไปอย่างไม่มีทางหวนกลับ เขาหันหลังกลับมาเป็นศัตรูต่อกรกับพวกฮาร์เวสเตอร์ มิหนำซ้ำเอียนยังทำลาย “ความเป็นอมตะ” ของพวกฮาร์เวสเตอร์ที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะถูกทำลายลงได้ เอียนจึงกลายเป็นคนอันตรายสุดขั้ว พวกฮาร์เวสเตอร์ “จองจำ” เอียนให้จมลึกลงสู่วังวนแห่งวิถีชีวิตสุดอับเฉา ด้วยความประสงค์ที่จะค่อย ๆ ทำลายจิตวิญญาณของเอียนลงทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งถึงวันที่เอียนจะต้องหันกลับมาใช้วิถีชีวิตแบบฮาร์เวสเตอร์ ดื่มกินอย่างอิ่มหนำด้วยความหวาดกลัวของผู้คน และหวนกลับมาเป็นฮาร์เวสเตอร์เต็มรูปแบบอีกครั้งพวกฮาร์เวสเตอร์ไม่รู้หรอกว่า ไม่ว่าจะฟื้นคืนชีพมากี่ครั้ง เอียนก็เฝ้าติดตามช่วยชีวิตของเจนนี่ทุกครั้งไป เกรย์อธบายว่า ตราบใดที่เจนนี่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ เอียนก็จะเอาชนะการแสวงหาความกลัวของมนุษย์มาเป็นอาหารต่อพลังชีวิตของพวกฮา ร์เวสเตอร์ และจะทำลายพวกมันสำเร็จเมื่อมีดี้และสมุนฮาร์เวสเตอร์จับเอียนมาทรมานจนเค้นความจริงได้หมดเปลือก ว่า เจนนี่ ต่างหากที่มีความสำคัญกับเอียนยิ่งชีวิต พวกมันจึงหันมาเล่นงานและหาทางกำจัดเจนนี่ให้สิ้นชีพ เอียน จึงต้องต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อแลกมาเพื่ออิสรภาพของพวกเขา
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment